
วิธีการขยายพันธุ์มะปราง
ได้ทำการขยายพันธุ์ 2 วิธี คือ การเสียบยอดและการทาบกิ่ง
การขยายพันธุ์ โดยการเสียบยอด
การเสียบยอดเป็นวิธีการขยายพันธุ์ มะยงชิด - มะปรางหวานใหญ่ ที่ดีวิธีหนึ่ง ที่จะไม่เกิดการกลายพันธุ์ [Mutation] ข้อเสีย ก็คือ การเจริญเติบโตในระยะแรกจะช้ามาก ต้องใช้เวลา 2-3 ปีจึงจะโตสูงกว่า 80 ซ.ม. พอที่จะนำไปขายได้ แต่เมื่อนำไปปลูกลงดินแล้ว จะโตเร็วมาก ใช้เวลาเพียง 1 -2 ปี ก็สามารถผลิดอกออกผลได้
การขยายพันธุ์ โดยการทาบกิ่ง
วิธีนี้เป็นที่นิยมกันมาก มี ข้อดี ดังนี้
1. สามารถทาบกิ่งได้หลายขนาด หลายประเภท ไม่ว่าจะเป็นกิ่งแขนง กิ่งเล็ก กิ่งใหญ่ กิ่งกระโดง รวมไปถึงกิ่งสาขา (Brance)
2. ตั้งราคาขายได้หลายราคา จากขนาดเล็กไปหาใหญ่ ตามใจของผู้ซื้อ
3. ให้ผลผลิต (ออกผล) ได้รวดเร็ว ตามขนาดและความสมบูรณ์ของกิ่ง
4. สามารถเพิ่มมูลค่า [Added value] ได้ง่ายโดยการเสริมราก
ข้อเสีย
1. หากตัดกิ่งทาบที่แผลยังติดไม่สนิท จะทำให้ติดเชื้อได้ง่าย เมื่อโดนลมพัดแผลจะฉีกทำให้กิ่งตายได้ง่าย
2. การเลือกต้นตอกับกิ่งพันธุ์ดี ต้องให้ได้ขนาดใกล้เคียงหรือสมดุลกัน บางคนใช้กิ่งตอเล็กมากเกินไปเมื่อเทียบกับกิ่งพันธุ์ดีที่ใหญ่มาก เมื่อนำไปปลูกกิ่งตออาจหักได้ง่าย เพราะรับน้ำหนักต้นใหญ่ไม่ไหว อาจจะตายได้ง่าย หรือไม่ตายก็โตช้า
3. กิ่งพันธุ์ดีมีสภาพไม่เหมาะสม เช่น กิ่งเป็นโรค กิ่งแคระแกร็น กิ่งแก่เกินไป เมื่อนำไปปลูก การพัฒนาลำต้นจะไม่ดี อาจตายง่ายหรือโตช้า
4. บางคนดึงต้นตอออกจากถุงเพาะชำ ตัดรากแก้วทิ้ง อัดขุยมะพร้าว แล้วนำไปทาบ เมื่อนำไปปลูก ต้นจะเจริญเติบโตช้า หรืออาจตายได้ง่าย
นวัตกรรม[Innovation] การทาบกิ่งมะปราง
จากการพัฒนา (Development) มะปราง ทำให้ได้ นวัตกรรมการทาบกิ่งโดยใช้กรรมวิธี ดังต่อไปนี้
1. เลือกต้นตอ ที่สมบูรณ์และกิ่งพันธุ์ดี ให้มีขนาดและอายุ ไล่เลี่ยกัน
2. กำหนดตำแหน่งของกิ่งพันธุ์ดีที่จะทาบให้ห่างจากจุดที่จะควั่นประมาณ 1 คืบ
3. ยกต้นตอที่เตรียมไว้ขึ้นทาบ ก้นถุงจะอยู่ใกล้เคียงกับจุด ที่จะควั่นและตัด
4. มัดถุงของต้นตอกับกิ่งพันธุ์ดีให้แน่น โยงเชือกปอกับโครงสร้างที่แข็งแรง
5. หลังทาบประมาณ 7 วันหากฝนไม่ตก ให้รดน้ำจนตุ้มของต้นตอเปียกโชก
6. หลังทาบประมาณ 75-90 วันให้ควั่นกิ่งพันธุ์ดี ตรงจุดที่ได้กำหนดไว้แล้ว
7. หลังควั่นประมาน 10-30 วันให้ทยอยตัดกิ่งพันธุ์ดี ลำดับตามขนาดของกิ่ง
8. กรีดตรงรอยตัด 2-3 ทาง ยาวประมาณ 1 นิ้ว แช่ในน้ำยาเร่งราก [Plant Stimulant] ทิ้งไว้อย่างน้อย 30 นาที จึงนำไปเพาะชำ
9. นำไปลงถุงหรือกระถาง กระทุ้งดินให้แน่น ส่งเข้าเรือนเพาะชำ
จากกรรมวิธี 9 ข้อข้างต้น กิ่งพันธุ์ที่ถูกเพาะชำจะมี 2 ขา คือจากต้นตอและก้านของกิ่งประธาน หรือกิ่งพันธุ์ดี ที่เราตัดให้ยาวประมาณ 1 คืบ กิ่งนี้จะช่วยยึดลำต้นและเมื่อรากฝอยงอกออกมา รากจะช่วยตรึงลำต้นให้แข็งแรงและช่วยหาอาหาร ทำให้ก้านของกิ่งประธานเติบโต ควบคู่ไปกับกิ่งตอ ทำให้ได้กิ่งพันธุ์ดีมี 2 ขารากที่แข็งแรงและสมบูรณ์เป็นอย่างยิ่ง วิธีนี้ ตั้งชื่อเรียกขานว่า การทาบกิ่งแบบ 1ตอ 2ขาราก (ดูในภาพ)
หากต้องการเสริมตอเข้าไปอีก 1 ต้นก็ทำได้ตามข้อ 3 โดยให้ตอใหม่และแผลอยู่ตรงกันข้ามกับตอแรก เรียกขานการทาบกิ่งวิธีนี้ว่าแบบ 2ตอ 3ขาราก (ดูในภาพ) ขอแนะนำว่า วิธีนี้เป็นการเสริมราก ที่ประหยัดแต่มีประสิทธิผลสูงที่สุด [Optimization]
หากต้องการเสริมเพิ่มเป็นแบบ 3ตอ 4ขาราก หรือเท่าไหร่ก็ย่อมสามารถทำได้ แต่อาจต้องเปลี่ยนตำแหน่งของจุดทาบไปตามความเหมาะสม