Monday, May 13, 2013

การจำแนกและคัดเลือกสายพันธุ์มะปราง



การจำแนกและคัดเลือกสายพันธุ์

     เมื่อรวบรวมต้นแม่พันธุ์ดีได้ประมาณ 56 สายพันธุ์มาปลูกรวมกัน เมื่อเริ่มออกผล ทางศูนย์ฯ ก็เริ่มทำการคัดเลือก โดยยึดคุณสมบัติตามหลักวิชาการทางด้านวิทยาศาสตร์เป็นหลักคือ คุณสมบัติทางกายภาพ [ Physical Property ] คุณสมบัติทางเคมี [ Chemical Property ] และคุณสมบัติทางชีววิทยา [ Biological Property ]

       ทางด้านกายภาพ ทางศูนย์ฯ พิจารณาตามคุณสมบัติดังต่อไปนี้

     1. ผล ต้องมีขนาดใหญ่ที่สุด วัดโดยการชั่งน้ำหนัก [ Weighting ]

     2. รูปพรรณสัณฐาน [ Shape and Appearance ] ที่ยอมรับได้คือ ทรงกลม ทรงรูปไข่ ทรงหัวเรียวก้นใหญ่ (คล้ายมะดัน) ทรงหัวเรียวก้นงอน ส่วนพันธุ์ที่มีรูปทรงหัวโตก้นเรียวแหลมนั้น ทางศูนย์ฯ ไม่นำเสนอ เพราะรูปร่างไม่สวยงาม

     3. ขนาดของเมล็ดต้องไม่ใหญ่ หรือที่เรียกกันว่าเมล็ดลีบ แต่ต้องติดตามผลอย่างต่อเนื่องไม่น้อยกว่า 3 ปี

     4. เปลือกของผลต้องหนาไม่เปราะบางและสีของผิวต้องสดใสไม่เหลืองซีด

     5. เนื้อแน่น ไม่เละ เก็บไว้ได้นาน

     6. เป็นพันธุ์เบา คือออกลูก ติดผลง่าย ให้ผลต่อเนื่องไม่น้อยกว่า 3 ปี

       ทางด้านเคมี พิจารณาจากรสชาติ

     1. ถ้าเป็นมะยงชิด ต้องมีรสชาติหวานอมเปรี้ยวนิดๆ ถ้าเปรี้ยวมากเรียกว่า มะยงห่าง ถ้าเปรี้ยวอย่างเดียวไม่มีรสหวานเลย เรียกว่า กาวาง

     2. ถ้าเป็นมะปรางหวานพันธุ์ดี จะต้องมีความหวานมาก หรือ หวานฉ่ำ เมื่อรับประทานแล้วไม่รู้สึกคันหรือระคายคอเหมือนมะปรางพื้นบ้าน

     3. ความหวานของทั้งมะยงชิดและมะปรางหวานใหญ่ พันธุ์ดี ไม่ควรต่ำกว่า 17๐ BRIX ( อยู่ที่สายพันธุ์และการดูแลรักษา )

       ทางศูนย์ฯ ได้คัดเลือกมะยงชิดที่มีคุณสมบัติครบถ้วนตามที่ได้กล่าวไว้ข้างต้น คือ "พันธุ์เพชรกลางดง , ทูลเกล้า และบางขุนนนท์"

       ส่วนมะปรางหวานใหญ่นั้น ทางศูนย์ฯ สามารถคัดเลือกพันธุ์ที่มีคุณสมบัติดีเด่นครบถ้วนไว้ได้ 6 สายพันธุ์ คือ

     1. พันธุ์เพชรคลองลาน (มะปรางหวานไข่ห่าน)

     2. พันธุ์เพชรหวานกลม

     3. พันธุ์เพชรหวานยาว

     4. พันธุ์เพชรนพเก้า

     5. พันธุ์เพชรเหรียญทอง-1

     6. พันธุ์เพชรเหรียญทอง-2

(ทั้ง 6 สายพันธุ์ ลูกจะโตเท่ามะยงชิด และโตกว่าไข่เป็ด)

       การจำแนกสายพันธุ์ โดยอาศัยคุณสมบัติทางกายภาพ และทางเคมี ที่กล่าวไว้ข้างต้นไม่สามารถแยกแยะรูปแบบทางพันธุกรรมที่จำเพาะ สำหรับจำแนกเอกลักษณ์พันธุ์ของแต่ละพันธุ์ได้

       ดังนั้นทางศูนย์ฯ จึงได้คัดเลือกมะยงชิดพันธุ์ดี 3 สายพันธุ์ และมะปรางหวานใหญ่ พันธุ์ดี 6 สายพันธุ์ รวม 9 สายพันธุ์ ที่ได้ผ่านการตรวจสอบคุณสมบัติทางกายภาพ และเคมีมาแล้วส่งเข้าวิเคราะห์ ดี เอ็น เอ เพื่อหาความเด่นชัดทางด้านพันธุกรรม ตั้งแต่ปลายเดือนมีนาคม พ.ศ. 2550 เสร็จสมบูรณ์ เมื่อวันที่ 20 พฤศจิกายน พ.ศ. 2550  รวมเวลาวิเคราะห์รวบรวมเอกสาร ปรับปรุงแก้ไข ประมาณ 8 เดือนเต็ม

       ผลการตรวจ ดี เอ็น เอ ได้ผลสรุปชัดเจนว่า แต่ละสายพันธุ์มีความแตกต่างทางด้านพันธุกรรมอย่างเด่นชัด โดยเฉพาะมะยงชิด พันธุ์เพชรกลางดง แตกต่างจาก พันธุ์ทูลเกล้า และพันธุ์บางขุนนนท์ อย่างชัดเจน ส่วนมะปรางหวานใหญ่พันธุ์ดี 6 สายพันธุ์ ก็มีความแตกต่างกันอย่างชัดเจนเช่นกัน จะมีความใกล้ชิดกันบ้างก็คือ พันธุ์เพชรเหรียญทอง-1 กับพันธุ์เพชรนพเก้า แต่ไม่ใช่พันธุ์เดียวกัน

       สรุปผลการหา ดี เอ็น เอ เพื่อหาความแตกต่างทางด้านพันธุกรรม เมื่อเปรียบเทียบกับการวินิจฉัยโดยอาศัยคุณสมบัติทางกายภาพและเคมี ซึ่งทางศูนย์ฯ ได้ดำเนินการมาอย่างต่อเนื่องและยาวนานนั้น มีผลสอดคล้องกัน นั่นคือ มะยงชิด-มะปรางหวานใหญ่พันธุ์ดี ที่ศูนย์ฯ ได้นำออกเผยแพร่แก่สาธารณชน ทั้ง 9 สายพันธุ์ มีความโดดเด่นทางด้านพันธุกรรมไม่ซ้ำกัน จึงเป็นโอกาสทองของผู้ที่สนใจจะปลูกในเชิงการค้าสามารถระบุและเลือกสายพันธุ์ที่ดีเด่น ชัดเจนได้จากศูนย์ โดยไม่มีความเสี่ยงใดๆทั้งสิ้น

0 comments:

Post a Comment